อ่านเพิ่มเติม
รุ่นเริ่มต้นมีความจุ 256 GB และมีรุ่นความจุสูงสุด 512 GB
ตัวเครื่องใช้วัสดุอะลูมิเนียม + กระจกด้านหลัง + กระจกหน้าด้านหน้าแบบ “Ceramic Shield 2” ซึ่ง Apple ระบุว่า แข็งแกร่งและทนต่อรอยขีดข่วนมากขึ้น
มีให้เลือกหลายสี: ดำ, ขาว, ฟ้าหมอก (Mist Blue), เขียวเสจ (Sage), ลาเวนเดอร์
iPhone 17 มาพร้อมกับ iOS 26 จากโรงงาน
ชิป / ฮาร์ดแวร์ (Hardware Components)
ชิปหลัก: Apple A19 (CPU 6-core + GPU 5-core + neural engine)
RAM: รายงานทั่วไปคือ 8 GB
ความจุ: 256 GB / 512 GB
ตัวเครื่อง: ขนาด 149.6 × 71.5 × 7.95 มม., น้ำหนัก ~ 177 กรัม
จอภาพ & การแสดงผล
จอเป็น Super Retina XDR OLED ขนาด 6.3 นิ้ว (แนวทะแยง)
ความละเอียด: 2622 × 1206 พิกเซล (ประมาณ 460 ppi)
รองรับ ProMotion — รีเฟรชเรตสูงสุด 120 Hz (ทำให้การเลื่อนหน้าจอ / แสดงผลไหลลื่น)
มาพร้อม Always-On display + “Dynamic Island” + กระจกหน้า Ceramic Shield 2 ที่ทนทานกว่าเดิม และเคลือบลดการสะท้อนแสง/ลดรอยนิ้วมือ
ความสว่าง: สูงสุด 3000 nits (peak) สำหรับใช้งานกลางแจ้ง / HDR + Wide Color (P3) + True Tone + Haptic Touch
การเชื่อมต่อ & เครือข่าย (Mobile Connectivity)
รองรับ 5G, LTE/4G, และมาตรฐานสื่อสารมือถือทั่วไป (GSM, HSPA, etc.)
Technetbook | The Tech Experts
Wi-Fi: รองรับ Wi-Fi 7 (รวมถึง hotspot)
Bluetooth 6.0, NFC, USB-C (รองรับ DisplayPort, USB 2.0)
ไม่มีช่องใส่ซิมแบบ physical SIM ในบางประเทศ — เครื่องอาจใช้ eSIM / dual eSIM เป็นหลัก (ขึ้นกับพื้นที่วางจำหน่าย)หรับใช้งานกลางแจ้ง / HDR + Wide Color (P3) + True Tone + Haptic Touch
กล้อง & เทคโนโลยีภาพ
กล้องหลังคู่ (Dual Fusion)
เลนส์หลัก 48 MP (ƒ/1.6) พร้อมกันสั่น OIS และ telephoto แบบ “2x” (crop-based zoom)
เลนส์ Ultra-wide 48 MP (ƒ/2.2, มุมกว้าง) (สามารถใช้ถ่ายมุมกว้าง / มาโคร)
ถ่ายวิดีโอ 4K Dolby Vision HDR ได้ (สูงสุด 60 fps) และรองรับ Cinematic mode, Slo-mo, Time-lapse ฯลฯ
กล้องหน้า: 18 MP (ƒ/1.9) พร้อมฟีเจอร์ Center Stage (จัดเฟรมให้เหมาะสมกับคน ถ่ายเซลฟี่หรือวิดีโอคอลสะดวก)
รองรับ Portrait & Depth control, Photonic Engine, Smart HDR, Night mode, Live Photos, Burst mode ฯลฯ — ทำให้ได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอคุณภาพสูง
แบตเตอรี่ & การชาร์จ
แบตเตอรี่แบบ Li-Ion ความจุประมาณ 3692 mAh (จากข้อมูลทั่วไป)
รองรับ ชาร์จเร็ว 40 W (wired) — ชาร์จได้ถึง ~50% ภายใน ~20 นาที (เมื่อใช้อะแดปเตอร์ 40 W หรือสูงกว่า, และสาย USB-C)
รองรับ ชาร์จไร้สาย MagSafe / Qi2 สูงสุด 25 W และยังมี reverse wired charging (ให้ iPhone จ่ายไฟออกไปจ่ายให้อุปกรณ์อื่นได้) ในบางเวอร์ชัน
ตาม Apple — แบตเตอรี่ให้ “ใช้งานได้ตลอดวัน” และเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด ~ 30 ชั่วโมง
จุดเด่น / สิ่งที่ควรรู้
ครั้งนี้รุ่นพื้นฐาน (non-Pro) ได้อัปเกรดเยอะมาก — จอ OLED 6.3″ + 120Hz + Always-On + Ceramic Shield 2 + กล้อง 48 MP + ชิป A19 — ทำให้ใกล้เคียงกับ iPhone รุ่น “Pro” ของปีก่อน ๆ — ถือว่า “คุ้มค่า” สำหรับคนที่อยากอัปเกรดจากรุ่นเก่าโดยไม่จ่ายแพงสุด.
ตัวเครื่องยังคงออกแบบให้บาง (7.95 มม.) และเบา (177 กรัม) — ถือนานไม่เมื่อยมือ
รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อล่าสุด (5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 6, USB-C) — เหมาะกับอนาคตและใช้งานระยะยาวได้ดี

0 Reviews